ความแตกต่างของระบบไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์และระบบไฟฟ้าทั่วไปจากการไฟฟ้า
ระบบทั่วไปจากการไฟฟ้า 
จะส่งไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไปสู่ผู้ใช้ปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย หรือแม้แต่โรงงานอุตสาหกรรม มักจะถูกส่งมาในรูปแบบของไฟฟ้ากระแสสลับ (AC)
โดยเริ่มต้นจากการผลิตไฟฟ้าแบบกระแสสลับที่โรงไฟฟ้า และส่งด้วยแรงดันไฟฟ้าที่สูงผ่านทางสายส่งไฟฟ้าแรงสูงและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบส่งไฟฟ้า เพื่อส่งไปสู่สถานีไฟฟ้าย่อยและส่งกระจายต่อไปยังพื้นที่ใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะมีหม้อแปลงแรงดันไฟฟ้าเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าให้ต่ำลง ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น แรงดัน 220 โวลต์สำหรับใช้ในอาคารบ้านเรือน เป็นต้น โดยระบบส่งไฟฟ้าทั้งระบบจะทำงานในรูปแบบไฟฟ้ากระแสสลับตั้งแต่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เป็นต้นทางจนถึงผู้ใช้ปลายทาง
.
ระบบการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์
จะผลิตโดยใช้แผงโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กที่ให้แรงดันเพียง 0. 5 โวลต์ ต่ออนุกรมกันอยู่ภายในจำนวนมาก ทำให้โมดูลแผงโซลาร์เซลล์ 1 แผงสามารถให้แรงดันไฟฟ้าได้สูงขึ้น เช่น 30-50 โวลต์ต่อแผง และตัวโมดูลแผงโซลาร์เซลล์นี้สามารถนำมาอนุกรมกันเพื่อเพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้สูงขึ้นได้อีก ซึ่งไฟฟ้าที่ได้นี้จะเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) แต่อย่างไรก็ตามแม้แรงดันจะสูงขึ้นแต่กระแสไฟฟ้าจะยังคงแตกต่างจากกระแสไฟฟ้าปกติที่มาจากการไฟฟ้า จึงจำเป็นจะต้องมีเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) เพื่อเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) นอกจากนี้อินเวอร์เตอร์ยังมีหน้าที่ควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่ได้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่น แรงดัน 220 โวลต์ เพื่อให้เข้ากับความต้องการของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน นอกจากนี้อินเวอร์เตอร์บางชนิดยังรองรับการทำงานร่วมกับไฟฟ้าจากการไฟฟ้าเพื่อให้ระบบโซลาร์เซลล์สามารถทำงานร่วมกันได้ ทำให้เกิดประโยชน์มากมาย เช่น การลดค่าไฟฟ้า หรือสามารถมีไฟฟ้าสำรองใช้ได้ หากมีการติดตั้งแบตเตอรี่ร่วมด้วย แต่การติดตั้งจะต้องทำอย่างระมัดระวังและใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เพราะกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้อาจไหลออกสู่ระบบไฟฟ้านอกอาคารได้
